เช็กประกัน Apple เป็นสิ่งแรกที่ผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์แอปเปิลควรรู้ โดยเริ่มตั้งแต่ซื้อเครื่องที่คุณต้องลงทะเบียน Apple ID ครั้งแรก และร้านค้าก็จะลงทะเบียนข้อมูลจากใบเสร็จเพื่อให้ประกันเริ่มความคุ้มครอง หลังจากนั้นหากซื้อประกัน Apple Care เพิ่ม ก็จะเพิ่มความคุ้มครองเพิ่มเติมจากเงื่อนไขที่ซื้อวันแรก
ตรวจสอบประกัน Apple ทำอย่างไร
วิธีเช็กประกันไอโฟน ไอแพด ง่ายๆ ด้วย Log In Apple ID โดยอุปกรณ์แอปเปิลที่เราป้อน Apple ID ไว้ได้นั้น หากเราเข้าไปที่ mysupport.apple.com ผ่านช่องทาง Web Browser ก็สามารถเช็กดูประกันต่างๆ ที่เรามีของผลิตภัณฑ์แอปเปิลทั้งหมดได้ ไม่ว่าจะเป็น ไอโฟน, ไอแพด รวมถึงแอปและซอฟต์แวร์อื่นๆ ที่ซื้อไว้กับแอปเปิล แต่หากอยากดูเป็นบางชิ้น ก็เลือกใช้วิธีการหาเลขประจำเครื่องไปกรอกที่หน้าเช็กประกัน Apple
สิ่งที่ต้องใช้กับการเช็กประกัน Apple ได้แก่ Apple ID, เลขประจำเครื่อง
(วิธีหาหมายเลขประจำเครื่อง คลิกที่นี่)
เช็กประกัน iPhone
- คลิก “ตั้งค่า” > “ทั่วไป” > “เกี่ยวกับ”
- นำหมายเลขประจำเครื่องไปใส่ในหน้าตรวจสอบความคุ้มครอง https://checkcoverage.apple.com/th/th
เช็กประกัน iPad, iPod Touch, iPod
- คลิก “ตั้งค่า” > “ทั่วไป” > “เกี่ยวกับ”
- นำหมายเลขประจำเครื่องไปใส่ในหน้าตรวจสอบความคุ้มครอง https://checkcoverage.apple.com/th/th
เช็กประกัน Apple Watch
- คลิก “ตั้งค่า” > “ทั่วไป” > “เกี่ยวกับ”
- นำหมายเลขประจำเครื่องไปใส่ในหน้าตรวจสอบความคุ้มครอง https://checkcoverage.apple.com/th/th
เช็กประกัน Apple Macbook
- คลิกเกี่ยวกับ Mac เครื่องนี้ จากเมนู Apple
- นำหมายเลขประจำเครื่องไปใส่ในหน้าตรวจสอบความคุ้มครอง https://checkcoverage.apple.com/th/th
เช็กประกัน Apple Pencil
- เปิดเครื่อง iPad ให้เชื่อมต่อ Apple Pencil แล้วดูเลขประจำเครื่องของ Apple Pencil ที่ปรากฏบน iPad หรือดูเลขประจำเครื่อง Serial Number ข้างกล่อง เพื่อไปกรอกในหน้าดูความคุ้มครอง
- นำหมายเลขประจำเครื่องไปใส่ในหน้าตรวจสอบความคุ้มครอง https://checkcoverage.apple.com/th/th
นอกจากนี้อุปกรณ์ Apple อื่นๆ ก็สามารถนำเลข Serial Number และเลขประจำเครื่องไปเช็กประกัน Apple ได้เช่นกัน แต่บางสินค้าอาจจะไม่สามารถซื้อ Apple Care เพิ่มได้ อาทิ อุปกรณ์เสริม MagSafe, AirTag, Beat, AirPort และคีย์บอร์ด เม้าส์ไร้สาย